05 พฤศจิกายน 2551

บทบาท"สหาย"ในสถานการณ์ปัจจุบัน...







สายลมเย็นปะทะใบหน้า โลมหยาดฝนปนเม็ดเหงื่อที่ผุดบนใบหน้า...
ชายหนุ่มใหญ่ถอนหายใจยาว ...กับภารกิจเบื้องหน้า หลังกองยางรถยนต์เก่าที่ดัดแปลงเป็นบังเกอร์กลางเมืองหลวง....
สายลมเย็นแห่งปลายฝนต้นหนาว ที่ราวฟ้าสุดสายตาหลังคลื่นทะเลภูเขาและเบื้องหลังกาลเวลาที่ผ่านเลยมากว่าสามสิบปี...
ที่หลังกองดินที่ถูกโกยขึ้นดัดแปลงเป็นบังเกอร์หลังแนวรบด้านตะวันตกที่เหตุการณ์ไม่เคยเปลี่ยนแปลง....

เวลา..กว่าสามทศวรรษ มีพลังอำนาจในการเปลี่ยนแปลงเรื่องราวต่างๆในชีวิตของผู้คนทั้งปวง...อย่างยิ่งใหญ่...
แต่ ไม่อาจล่วงเกินเข้าไปในจิตวิญญาณของคนพันธ์หนึ่งที่เรียกขานตนเองว่า..."สหาย"...

"สหาย" คือจิตวิญญาณของคนพันธ์หนึ่งซึ่งเคารพในหลักแห่งความเสมอภาค ภราดรภาพ และรักความเป็นธรรมยิ่งชีพ...
มีความผูกพันอยู่กับชะตากรรมของผองชนผู้ทุกข์รำเค็ญ ถูกกดขี่ข่มเหง ขูดรีดเอารัดเอาเปรียบ อย่างที่สุด...
รักชาติ รักประชาธิปไตย รักชนชั้นผู้ถูกกดขี่ขูดรีด...
จุดยืน อุดมการณ์ และจิตใจอันสูงเด่นของ "สหาย"ยังคงเหมือนสายลมเย็นแห่งฤดูกาล..ที่ต้องพัดพามาตามเวลาอย่างที่เคยเป็นมาอย่างเที่ยงตรง..

แม้นเวลาจะผ่านไป..แต่ทุกครั้งที่ประชาชนถูกรังแกกดขี่ข่มเหง ประเทศชาติถูกผู้ปกครองฉ้อฉลกอบโกยโกงกินใกล้สิ้นชาติ สังคมไร้สิทธิเสียงเสรีภาพอย่างที่ควรจะเป็น...สายลมเย็นแห่งการต่อสู้ก็จะพัดพามาอาบชโลมใจผู้คนให้สดชื่นตื่นใจเสมอมา....
จิตวิญญาณแห่ง "สหาย" ไม่เคยสูญหาย หรือ ตายไปกับกาลเวลา.....

ลุ พุทธศักราชปีทื่ ๒๕๕๑ ณ ใจกลางกรุงรัตนโกสินทร์...
ความคิดเห็นที่แปลกแยกแตกต่างทางการเมือง ได้ก่อตัว พัฒนาความขัดแย้งมาสู่การแตกขั้วอย่างชัดแจ้ง...ทั้งยังกว้างขวาง และลึกซึ้งอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน...
ผู้คน ถกเถียง ตวาดใส่ ชี้หน้าด่าทอ เผชิญหน้า..และพร้อมเข่นฆ่ากันให้อาสัญ....
ความขัดแย้งยกระดับทวีความรุนแรงและแผ่กว้างไพศาลไปทั้งแผ่นดิน...
หมดสิ้นเยื่อไย ชนเผ่าไท ที่เคยอยู่ร่ม อยู่ร่วมกันมาอย่างเป็นสุขเนิ่นนานนับร้อยนับพันปี...
ความขัดแย้งของสองขั้วสองขบวนชนผู้คิดเห็นแตกต่าง...เดินทางมาสู่การเผชิญหน้า เปิดหน้าไพ่ "สงครามประชาชน" ท้าชนกันทุกรูปแบบ ทุกที่ ทุกเวลา...

ณ ทางแพร่งแห่งสงครามประชาชนครั้งใหม่...
"สหาย" มากหน้าหลายตา จากหลากหลายหน่วย หลากหลายเขตงานได้ผสานร่วมเป็นเนื้อแท้เนื้อในของกองกำลังและองคาพยพของทั้งสองฝ่าย อย่างลึกซึ้ง แน่วแน่ และฮึกหาญ....
เป็นทั้ง เสธ.ออกแบบ ชี้นำ..และเป็นมวลชนคนเดินตาม....
เป็นทั้งผู้บังคับชัญชากองกำลัง..และขุนพลนักรบในแนวหน้า...
เป็นทั้งผู้เดินงานการเมือง การข่าว...และผู้เฝ้าฟัง พร้อมส่งเสียงเชียร์...
เป็น "สหาย" ที่ยืนประจัญหน้า กันอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน....

"สหาย" ควรจะมีบทบาทอย่างไร ? ในสงครามที่ตนเองไม่ได้ก่อ....?
ขอคำตอบจงมีแด่ท่านที่เป็น "สหาย" ในสงครามในวันพรุ่งนี้.

ไม่มีความคิดเห็น: